เม็กซิโกอ้างเวียดนามทุ่มตลาด จ่อขึ้นกำแพงภาษีลวดเหล็กนำเข้า 36.23%
เม็กซิโกอ้างเวียดนามทุ่มตลาด จ่อขึ้นกำแพงภาษีลวดเหล็กนำเข้า 36.23% เพื่อปกป้องผู้ผลิตภายในประเทศ
บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า เม็กซิโกประเทศเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของละตินอเมริกาจะขึ้นกำแพงภาษีลวดเหล็กนำเข้าจากเวียดนาม 36.23% เพื่อปกป้องผู้ผลิตในประเทศ
กระทรวงเศรษฐกิจเม็กซิโกออกราชกิจจานุเบกษาในวันจันทร์ที่ 23 ธันวาคม 2024 กล่าวหาเวียดนามว่า ‘ทุ่มตลาด’ ลวดเหล็กในเม็กซิโก โดยการส่งออกลวดเหล็กที่ต่ำกว่าราคาตลาด
ซึ่งก่อนหน้านี้เม็กซิโกจำกัดการนำเข้าสินค้าจากเอเชีย ด้วยการขึ้นกำแพงภาษีเหล็กและเสื้อผ้าราคาถูกจากจีน และมีการบุกห้างสรรพสินค้าในกรุงเม็กซิโกซิตี ที่มีการขายสินค้าราคาถูกจากเอเชีย ทั้งยังรับปากอีกด้วยว่าจะดำเนินการเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมท้องถิ่นในประเทศมากขึ้น
รัฐบาลเม็กซิโกบอกว่าได้ดำเนินการตรวจสอบมาตั้งแต่ปลายปี 2023 หลังจากที่บริษัทสัญชาติเม็กซิกันอย่างอิเล็กโทรดอส อินฟรา (Electrodos Infra) และพลาสติคอส วาย อลัมเบรส (Plasticos y Alambres) ร้องเรียนว่าผลิตภัณฑ์ลวดเหล็กนำเข้ามีราคาที่ไม่เป็นธรรม และอ้างว่าอุตสาหกรรมในประเทศจะเสื่อมถอยลง หากยังคงนำเข้าลวดเเหล็กจากเวียดนามต่อไป
ตามประกาศที่ออกมา กระทรวงเศรษฐกิจระบุว่าบริษัท คิม ทิน กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (Kim Tin Group Corporation) มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตั้งราคาที่ไม่เป็นธรรม อย่างไรก็ตาม กำแพงภาษีจะถูกบังคับใช้กับผู้ส่งออกเวียดนามทั้งหมด
รายงานจากกระทรวงเศรษฐกิจเม็กซิโกเผยว่า ผู้ผลิตลวดเหล็กเม็กซิกันมีส่วนแบ่งทางการตลาดหดตัวลงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ขณะที่การนำเข้าลวดเหล็กจากเวียดนามกลับเพิ่มขึ้น 10 จุดเปอร์เซ็นต์ เป็น 18.6% ในปี 2023 ซึ่งกำแพงภาษีใหม่นี้จะมีผลบังคับใช้อย่างน้อย 5 ปีและขยายเวลาต่อได้
ด้าน เคลาเดีย ไชน์บัม (Claudia Sheinbaum) ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของเม็กซิโกซึ่งจะเริ่มดำรงตำแหน่งวาระ 6 ปีในเดือนตุลาคม 2025 ให้สัญญาว่าจะออกมาตรการต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับการผลิตในประเทศ